1. สัญญาณนกหวีดข้อใดถูกต้อง
ก. เสียงนกหวีดยาว 1 ครั้ง ให้ผู้ขับขี่หยุดรถข. เสียงนกหวีดสั้น 2 ครั้ง ติดกัน ให้ผู้ขับขี่หยุดรถทันทีค. เสียงนกหวีดยาว 1 ครั้ง ให้ผู้ขับขี่ขับผ่านไปได้ง. เสียงนกหวีดยาว 2 ครั้ง ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็ว |
2. เขตปลอดภัยมีไว้สำหรับ
ก. ให้รถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไปข. ให้คนเดินเท้าข้ามทางโดยไม่ต้องหยุดรอค. ให้คนเดินเท้าที่จะข้ามทางหรือคนที่ลงรถหยุดรอก่อนจะข้ามต่อไปง. เขตที่ไว้สำหรับจอดรถได้อย่างปลอดภัย |
3. บริเวณใดห้ามผู้ขับขี่หยุดรถ
ก. บนทางเท้าข. บนสะพานค. ในอุโมงค์ง. ถูกทุกข้อ |
4. ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่ควรปฏิบัติเมื่ออยู่บนถนน
ก. ขับรถจี้ท้ายรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันรถอื่นวิ่งสวนทางเข้ามาชนข. ขับรถแล้วเจอแสงแดด ยกมือขึ้นมาป้องเพื่อป้องกันแสงเข้าตาค. ขับรถย้อนศรเพื่อประหยัดน้ำมันง. ขับรถด้วยความเร็วไม่เกินที่กำหนด และแซงในกรณีที่จำเป็นต้องแซงเท่านั้น |
5. ข้อใดถูกต้อง.
ก. มีสัญชาติไทยข. ต้องรู้จักถนนและทางหลวงในจังหวัดที่ขอรับใบอนุญาตขับรถพอสมควรค. ไม่เป็นผู้ติดสุรายาเมาหรือยาเสพติดให้โทษง. ถูกทุกข้อ |
6. รถต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเว้นแต่ค่าธรรมเนียมแผ่นป้ายทะเบียนรถ
ก. รถของสภากาชาดไทยข. รถของมูลนิธิร่วมกตัญญูค. รถของวัดง. รถของมูลนิธ่สายใจไทย |
7. รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางเดินรถได้
ก. รถที่มีเสียงดังกว่าเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดข. รถที่มีสิ่งลากถูไปบนทางเดินรถค. รถที่มีล้อไม่ใช่ยางง. รถที่มีเสียงเครื่องยนต์ดังในระดับ 80 เดซิเบล |
8. ข้อใด ไม่ใช่การขับรถอย่างปลอดภัยและประหยัดพลังงาน
ก. เร่งเครื่องก่อนออกรถข. ไม่ควรติดเครื่องยนต์ระหว่างจอดรถคอยค. ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสมง. ไม่บรรทุกของเกิดพิกัด |
9. ผู้ขับขี่ซึ่งจะเลี้ยวรถจะต้องให้สัญญาณมืออย่างไร
ก. ให้สัญญาณมือด้วยมือซ้ายเท่านั้นข. ให้สัญญาณมือได้ทั้งมือซ้ายและมือขวาค. ไม่ต้องให้สัญญาณมือใด ๆ ทั้งสิ้นง. ให้สัญญาณมือด้วยมือขวาเท่านั้น |
10. เครื่องหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร
ก. ห้ามกลับรถข. ห้ามกลับรถสวนทางค. ให้ขับชิดทางด้านขวาง. ให้รถเดินทางเดียว |
11. ผู้ขับขี่ที่ต้องการจะลดความเร็วของรถต้องให้สัญญาณด้วยมือและแขนอย่างไร
ก. ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้งข. ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่ ยกแขนขวาท่อนล่างตั้งฉากกับแขนท่อนบน และตั้งผ่ามือขึ้นค. ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่และงอมือชูขึ้นโบกไปทางซ้ายหลายครั้งง. ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่ |
12. เครื่องหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร
ก. ให้ขับรถผ่านไปในทางข้างหน้าได้ทันทีข. ให้ขับรถไปทางด้านซ้ายค. ให้ลดความเร็วหรือหยุดรถ เพื่อให้รถในทางข้างหน้าขับผ่านไปก่อนง. ให้หยุดรถพื่อให้ทางแก่รถที่คันใหญ่กว่า |
13. ถ้าเติมลมยางแข็งเกินไป จะมีผลกับยางอย่างไร
ก. ดอกยางตรงกลางจะสึกหรอเร็วกว่าปกติข. การขับขี่จะนุ่มนวลขึ้นค. ทำให้กินน้ำมันเชื้อเพลิงง. ดอกยางด้านข้างจะสึกเร็วกว่าปกติ |
14. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อใด
ก. เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุข. เมื่อขับรถผ่านทางร่วมทางแยกค. เมื่อจะกลับรถหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถง. เมื่อมีหมอก.ฝน ฝุ่น ควัน ในทางเดินรถ |
15. การบรรทุกสิ่งของยื่นเกินตัวรถยนต์ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ติดไฟสัญญาณสีแดงที่ของที่บรรทุกเกินตัวรถตอนกลางคืนหรือติดธงสีแดงตอนกลางวันข. ไม่ต้องติดสัญญาณใดๆ เพราะรถที่ตามมาต้องระมัดระวังเองค. ใช้ขวดน้ำผูกที่ส่วนที่บรรทุกเกินตัวรถนั้นง. ใช้ถุงพลาสติกผูกที่ส่วนที่บรรทุกเกินตัวรถนั้น |
16. หลังจากขับรถลุยน้ำ ผ้าเบรกเปียกมีวิธีแก้ไขให้แห้งได้อย่างไร
ก. เหยียบเบรกแรงๆข. ขับรถให้เร็วๆค. ขับรถช้าๆ เหยียบเบรกเบาๆ แล้วปล่อยหลายๆ ครั้งง. จอดรถเข้าเกียร์ว่างและเร่งเครื่องยนต์ไว้สัก. 10 นาที |
17. ในทางเดินรถที่มีสัญญาณจราจรไฟเขียวเป็นรูปลูกศรอยู่เหนือช่องทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ให้ขับรถในช่องทางเดินรถนั้นได้ข. ห้ามขับรถในช่องทางเดินรถนั้นค. ห้ามเลี้ยวง. ห้ามขับรถในช่องทางเดินรถนั้นเนื่องจากเป็นช่องทางเดินรถประจำทาง |
18. ท่านควรหมุนพวงมาลัยลักษณะใดในการเลี้ยงรถ
ก. ปั่นพวงมาลัยและตีกลับเองข. ใช้วิธีคลึงไปคลึงมาบนพวงมาลัยค. ใช้ระบบดึง-ดันง. หมุนระบบสอดสร้อยมาลา |
19. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนขวาท่อนล่างตั้งฉากกับแขนท่อนบนและตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ
ก. ด้านหลังข. ด้านหน้าและด้านหลังค. ด้านหน้าง. ด้านข้างและด้านหลัง |
20. การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในรถยนต์ควรตรวจสอบอะไรบ้าง
ก. ไฟเลี้ยวซ้าย-ขวาข. ไฟเบรกและไฟหน้าค. ไฟหน้าและไฟเลี้ยวซ้ายขวาง. ไฟเลี้ยวซ้าย-ขวาและไฟหน้าสูงต่ำ-ไฟหรี่-ไฟเบรก-ไฟส่องป้ายทะเบียนรถ |
21. รถประเภทใดสามารถเดินรถในช่องทางเดินรถประจำทางได้
ก. รถโดยสารประจำทางข. รถบรรทุกคนโดยสารเกิน 15 คน ของทางราชการค. รถโรงเรียนง. ถูกทุกข้อ |
22. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
ก. ห้ามเลี้ยวซ้ายข. ห้ามเลี้ยวขวาค. ให้เลี้ยวซ้ายง. ให้เลี้ยวขวา |
23. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตรข. เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตรค. หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยวง. เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว |
24. รถที่ขับด้วยความเร็วต่ำต้องขับอยู่ในข้อใด
ก. ช่องกลางข. ช่องซ้ายสุดค. ช่องขวาสุดง. ช่องใดก็ได้ |
25. เมื่อถึงที่คับขันผู้ขับรถต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. รีบขับผ่านไปโดยเร็วข. ลดความเร็วของรถ ขับไปด้วยความระมัดระวังค. เพิ่มความเร็วของรถง. เพิ่มความเร็วของรถ และบีบแตรเสียงยาวเป็นระยะๆ |
26. รถที่ค้างชำระภาษีประจำปีติดต่อกันครบสามปี จะมีผลตามกฎหมายอย่างใด
ก. ทะเบียนระงับข. สามารถนำรถไปตรวจสภาพและต่อภาษีประจำปีได้ค. สามารถกระทำได้ตามข้อ 1 และ 2ง. สามารถนำรถไปแจ้งไม่ใช้ตลอดไปและจดทะเบียนใหม่ได้ |
27. สาเหตุใดที่ทำให้การเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด
ก. ขับรถชิดคันหน้าข. ขับรถแซงอย่างผิดกฎหมายค. ขับรถตัดหน้าอย่ากระชั้นชิดง. ขับรถเร็วเกิดอัตราที่กำหนด |
28. หากท่านจอดรถในทางเดินรถหรือบนไหล่ทางในเวลากลางคืน ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. เปิดไฟหรี่ข. เปิดไฟเลี้ยวซ้ายค. เปิดไฟเลี้ยวขวาง. เปิดไฟต่ำ |
29. ฝาปิดจุ๊บลมยางมีประโยชน์อย่างไร
ก. ป้องกันลมรั่วซึมและสิ่งสกปรกต่างๆข. ป้องกันยางแตกค. ป้องกันการขโมยยางง. ป้องกันไม่ให้ใครมาเติมลม |
30. เมื่อท่านขับรถที่มุ่งหน้าเข้าหาหน้าผาของภูเขาสูงแสดงว่า
ก. ถนนที่ท่านกำลังขับรถอยู่นั้นตัดผ่านภูเขาข. ถนนที่ท่านกำลังขับรถอยู่นั้นจะต้องเป็นทางโค้งขวาหรือโค้งซ้ายค. ถนนที่ท่านกำลังขับรถอยู่นั้นอาจเป็นทางตันไม่สามารถขับผ่านไปได้ง. "ถูกทั้งข้อ ก, ข. และ ค." |
31. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร
ก. ทางเอกตัดกันรูปตัววายข. ทางเอกตัดกันรูปตัวทีค. ทางเอกตัดทางโทรูปตัววายง. ทางโทแยกทางเอกเยื้องกัน เริ่มซ้าย |
32. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร
ก. ไม่ขับรถตรงไปข. ต้องขับรถตรงไปตามทิศทางที่ป้ายกำหนดเป็นทางเดินรถทางเดียวเท่านั้นค. ไม่ขับรถเข้าไปง. ให้ขับรถไปทางซ้าย |
33. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?
ก. ขับรถภายในช่องจราจร ห้ามแซง.ห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้นโดยเด็ดขาดข. ขับรถให้ช้าลง.ให้เลี้ยวขวาค. ขับรถไปทางด้านขวา ให้เลี้ยวซ้ายง. เพิ่มความระมัดระวัง.ห้ามเลี้ยวซ้าย |
34. นอกเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร
ก. ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงข. ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงค. ไม่เกิน 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงง. ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
35. เมื่อต้องขับรถเข้าใกล้ทางรถไฟที่ไม่มีแผงกั้น ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง.
ก. ชะลอรถและควรเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถตลอดเวลาข. เพิ่มความเร็วเพื่อให้ผ่านไปได้เร็วค. บีบแตรเตือนเพื่อความปลอดภัยง. เปิดกระจกเพื่อฟังเสียงสัญญาณเตือนรถไฟ |
36. ระดับของเหลวในข้อใดต่อไปนี้ หากอยู่ในระดับที่ต่ำจะมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ก. ระดับน้ำมันเบรกข. ระดับน้ำในแบตเตอรี่ค. ระดับน้ำยาหล่อเย็นง. ระดับน้ำฉีดกระจก |
37. จากรูป หากท่านพบเห็นสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเหลือง.ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. เร่งความเร็วและขับผ่านไปข. บีบแตรและขับผ่านไปค. ค่อยๆ เหยียบเบรกย้ำๆ เพื่อเตือนรถข้างหลังระวังและเตรียมหยุดง. เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถทันที |
38. ชนิดใดที่ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายให้มากที่สุด
ก. รถยนต์รับจ้าง (แท๊กซี่)ข. รถสามล้อรับจ้างค. รถที่มีความเร็วช้าหรือต่ำกว่ารถคันอื่นง. ถูกทุกข้อ |
39. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
ก. ห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางขวาข. ให้เปลี่ยนช่องเดินรถไปทางขวาค. ห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางซ้ายง. ให้เปลี่ยนช่องเดินรถไปทางซ้าย |
40. เมื่อขับรถในช่องจราจรขวาสุด และมีรถด้านหลังขับขึ้นมาด้วยความเร็วสูง.ท่านควรทำอย่างไร
ก. ให้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย และเปลี่ยนไปยังช่องจราจรด้านซ้าย เพื่อให้รถที่มีความเร็วสูงกว่ารถของท่านแซงขึ้นไปอย่างปลอดภัยข. เร่งความเร็วหนีรถด้านหลัง.พยายามขับทิ้งระยะให้ห่างจากรถคันหลังค. ขับด้วยความเร็วเดิม เพื่อให้รถด้านหลังเปลี่ยนช่องจราจรไปทางซ้ายง. ให้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย หักหลบไปยังช่องจราจรซ้าย เร่งความเร็วแข่งกับรถในช่องจราจรขวา |
41. จากรูปเป็นการชนประสานงากันระหว่างรถคัน ก และ รถคัน ข ถามว่ารถ ก. หรือ รถ ข. เป็นฝ่ายผิด เพราะอะไร
ก. รถ ก. ผิด เพราะแซงซ้ายบนทางโค้งส่วนรถ ข. ถูก เพราะช่องที่ขับมาเป็นไหล่ทางไม่ใช่ข. รถ ก. ผิด เพราะขับรถย้อนศร ส่วนรถ ก. ถูกเพราะเป็นไหล่ทางช่องรถวิ่งสามารถขับได้ค. รถ ก. เป็นฝ่ายถูก เพราะขับรถชิดขอบทางด้านซ้าย ส่วนรถ ข. เป็นฝ่ายผิด เพราะขับรถชิดขอบทางด้านขวาง. รถ ก. ผิด เพราะแซงด้านซ้าย ส่วนรถ ข. ผิดเพราะขับรถย้อนศร |
42. เมื่อฝนเริ่มตกหนักในขณะที่ท่านขับรถอยู่ในเขตที่จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับด้วยความเร็วเท่าเดิมข. ชะลอความเร็วลง.ค. ขับรถเข้าข้างทางและรอจนกว่าฝนจะหยุดตก.ง. เร่งความเร็ว |
43. เครื่องหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร
ก. ทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวขวาข. ห้ามเลี้ยวซ้ายค. ห้ามเลี้ยวขวาง. ให้เลี้ยวซ้าย |
44. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกกรณีใดถูกต้อง
ก. ขับผ่านไปได้โดยทันทีข. กรณีในทางร่วมทางแยกมีรถอื่นหยุดขวางอยู่จนไม่สามารถขับรถผ่านไปได้ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถที่หลังเส้นให้รถหยุดและรอจนกว่าจะสามารถเคลื่อนรถผ่านทางร่วมแยกไปได้ค. ถ้ามีรถถึงทางร่วมทางแยกพร้อมกับผู้ขับขี่ต้องยอมให้รถที่อยู่ทางขวามือของถนนขับผ่านไปก่อนง. ถูกทุกข้อ |
45. เครื่องหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร
ก. ห้ามจอดรถ เว้นแต่หยุดรับ-ส่งคนหรือสิ่งของชั่วขณะข. จอดรถทิ้งไว้เพื่อรอรับคนได้ค. ทางเดินรถประจำทางง. ที่จอดรถประจำทาง |
46. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เหยียบเบรกทันที แล้วค่อยๆออกตัวเร่งความเร็วใหม่ข. ถอนคันเร่ง.เหยียบเบรกเพื่อใช้เกียร์ต่ำค. ถอนคันเร่ง.จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไปง. ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป |
47. รถในข้อใด ห้ามนำมาใช้ในทาง
ก. รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงข. รถที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนดค. รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้วง. รถที่อุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วน |
48. รถของท่าน (คัน ข.) ชนกับรถของคัน ก. ตรงบริเวณที่ท่านกำลังเลี้ยวขวาเข้าซอย ดังรูป
ก. ท่านเป็นฝ่ายผิด เพราะขับล้ำเข้าในช่องทางรถสวนข. ฝ่ายนาย ก. เป็นฝ่ายผิด เพราะไม่ยอมให้รถเลี้ยวเข้าซอยไปก่อนค. ท่านเป็นฝ่ายผิด เพราะไม่ได้ให้สัญญาณเลี้ยวขวาง. ฝ่ายนาย ก. เป็นฝ่ายผิด เพราะไม่ลดความเร็วของรถขณะขับผ่านทางร่วมทางแยก |
49. ประสงค์จดทะเบียนรถต้องยื่นคำขอที่ใด
ก. ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งข. ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่ตนมีภูมิลำเนาค. ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกง. ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนตามสถานที่ตั้งที่จำหน่ายรถนั้น ๆ |
50. ข้อใดใช้ไฟสูงไฟต่ำถูกต้อง
ก. ใช้ไฟสูงเมื่อมีรถสวนมาข. ใช้ไฟสูงเมื่อไม่มีรถสวนมาค. ใช้ไฟสูงเฉพาะตอนกลางคืนง. ใช้ไฟสูงเฉพาะตองกลางวัน |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น