1. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนขวาท่อนล่างตั้งฉากกับแขนท่อนบนและตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ ก. ด้านหลัง.ข. ด้านหน้าและด้านหลัง.ค. ด้านหน้า.ง. ด้านข้างและด้านหลัง |
2. รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางเดินรถได้ ก. รถที่มีเสียงดังกว่าเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด.ข. รถที่มีสิ่งลากถูไปบนทางเดินรถ.ค. รถที่มีล้อไม่ใช่ยาง.ง. รถที่มีเสียงเครื่องยนต์ดังในระดับ 80 เดซิเบล |
3. ผู้ขับขี่ซึ่งจะเลี้ยวรถจะต้องให้สัญญาณมืออย่างไร ก. ให้สัญญาณมือด้วยมือซ้ายเท่านั้น.ข. ให้สัญญาณมือได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา.ค. ไม่ต้องให้สัญญาณมือใด ๆ ทั้งสิ้น.ง. ให้สัญญาณมือด้วยมือขวาเท่านั้น |
4. การขับรถตามข้อใดปฏิบัติได้ถูกต้อง ก. ขับรถลักษณะผิดปกติวิสัย.ข. แซงรถในอุโมงค์.ค. ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร.ง. ขับรถเร็วไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด |
5. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ยุดทับเส้นแนวหยุด.ข. หยุดหลังเส้นแนวหยุด.ค. หยุดเลยเส้นแนวหยุด.ง. หยุดเลยป้ายหยุด |
6. เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่หลบหนีจะมีผลอย่างไร ก. ไม่มีผล เพราะไม่ใช่ฝ่ายผิด.ข. ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด.ค. มีผลให้เป็นฝ่ายถูก.ง. จะได้รับการกันไว้เป็นพยาน |
7. รถในข้อใด ห้ามนำมาใช้ในทาง ก. รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง.ข. รถที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด.ค. รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว.ง. รถที่อุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วน |
8. ในการบรรทุกสิ่งของ.ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ก. บรรทุกได้กว้างกว่าความกว้างของตัวรถข้างละ 1 เมตร.ข. บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหลังไม่เกิน 2.50 เมตร.ค. บรรทุกสูงโดยวัดจากสิ่งของที่บรรทุกได้เกิน 5 เมตร.ง. บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหน้าไม่เกิน 2.50 เมตร |
9. เมื่อถึงทางรถไฟและมีรถไฟกำลังแล่นผ่าน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ก. หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร.ข. ขับรถผ่านไปโดยเร็ว.ค. ให้เสียงสัญญาณแตรเตือนและขับผ่านไปได้.ง. หยุดรอสัญญาณไฟและเปิดไฟฉุกเฉิน |
10. ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าเท่าใด ก. 150 เมตร.ข. 100 เมตร.ค. 60 เมตร.ง. 120 เมตร |
11. บริเวณใดห้ามขับรถแซงรถคันอื่น ก. ทางโค้งรัศมีแคบ.ข. ในกรณีที่ทางเดินรถด้านซ้ายมีสิ่งกีดขวาง.ค. 150 เมตร จากทางร่วมทางแยก.ง. แซงด้านซ้ายในขณะที่มีรถรอเลี้ยวขวา |
12. ผู้ขับรถที่ดื่มสุราเมื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะต้องไม่เกินเท่าใด ก. ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น.ข. ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น.ค. ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น.ง. ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น |
13. เมื่อจะเปลี่ยนช่องทางหรือแซงรถทุกครั้งต้องปฏิบัติอย่างไร ก. รีบเปลี่ยนช่องทางโดยเร็ว.ข. ต้องให้สัญญาณไฟหรือสัญญาณแตร.ค. แซงขึ้นหน้าแล้วเหยียบเบรกทันที.ง. รีบเร่งเครื่องแซงโดยเร็ว |
14. นอกเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร ก. ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.ข. ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.ค. ไม่เกิน 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.ง. ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
15. รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางได้ ก. รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด.ข. รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว.ค. รถที่ขาดต่อภาษี.ง. รถที่แจ้งเลิกใช้ตลอดไป |
16. ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยว จะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะเท่าไร ก. ไม่น้อยกว่า 10 เมตร.ข. ไม่น้อยกว่า 15 เมตร.ค. ไม่น้อยกว่า 60 เมตร.ง. ไม่น้อยกว่า 30 เมตร |
17. บริเวณทางร่วมทางแยกและมีเครื่องหมายห้ามกลับรถแต่เจ้าพนักงานจราจรอนุญาตให้กลับรถได้ผู้ขับขี่ ต้องปฏิบัติอย่างไร ก. กลับรถได้.ข. กลับรถได้ถ้าไม่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ.ค. กลับรถไม่ได้.ง. กลับรถได้ถ้าไม่ใช่ทางร่วมทางแยก |
18. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีเหลือง.ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง.ข. หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง.ค. จอดรถ.ง. เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว |
19. ขณะขับขี่รถต้องเว้นระยะห่างรถคันหน้าเท่าใด ก. ในระยะที่ปลอดภัย.ข. 13 เมตร.ค. 50 เมตร.ง. 3 ช่วงตัวรถ |
20. ผู้ใดไม่มีหน้าที่ให้สัญญาณจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก.พ.ศ.2522 ก. ผู้ขับขี่รถยนต์.ข. พนักงานจราจร.ค. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์.ง. คนเดินเท้า |
21. ผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวซ้ายต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวกี่เมตร ก. ไม่น้อยกว่า 15 เมตร.ข. ไม่น้อยกว่า 20 เมตร.ค. ไม่น้อยกว่า 25 เมตร.ง. ไม่น้อยกว่า 30 เมตร |
22. ข้อใดปฏิบัติถูกต้อง ก. รถจักรยานยนต์ต้องขับในช่องเดินรถด้านซ้ายสุด.ข. รถบรรทุกคนโดยสารต้องขับในช่องเดินรถด้านขวาสุด.ค. รถบรรทุกสิ่งของต้องขับในช่องเดินรถด้านขวาสุด.ง. การเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางด้านขวาหรือซ้ายไม่ต้องดูกระจกด้านซ้ายหรือขวา |
23. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร.ข. เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร.ค. หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว.ง. เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว |
24. ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามข้อใดไม่ถูกต้อง ก. ลดความเร็วเมื่อถึงวงเวียน.ข. ลดความเร็วเมื่อถึงที่คับขัน.ค. จอดรถบริเวณทางร่วมทางแยก.ง. ลดความเร็วเมื่อเห็นคนกำลังข้ามทาง |
25. การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางไม่เกินกี่เซนติเมตร ก. ห่างไม่เกิน 35 เซนติเมตร.ข. ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร.ค. ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร.ง. ห่างไม่เกิน 40 เซนติเมตร |
26. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนซ้ายออกไปเสมอระดับไหล่ ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ
ก. ด้านข้าง.ข. ด้านหน้าและด้านหลัง.ค. ด้านหลัง.ง. ด้านหน้า |
27. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีแดง.ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ก. หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงให้ขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง.ข. ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง.ค. จอดรถด้วยความระมัดระวัง.ง. เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว |
28. ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเท่าไร ก. ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น.ข. ไม่น้อยกว่า 2 เมตร.ค. ไม่น้อยกว่า 1 เมตร.ง. ไม่น้อยกว่า 3 เมตร |
29. ขณะขับรถตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมีโทษอย่างไร ก. จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง.50,000 บาท.ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง.20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.ค. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท.ง. ปรับไม่เกิน 10,000 บาท |
30. บริเวณใดจอดรถได้ ก. ที่มีป้ายห้ามหยุดรถ.ข. ในอุโมงค์.ค. ทางร่วมทางแยก.ง. ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า |
31. ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย ยกเว้นกรณีใดสามารถเดินรถทางขวาหรือ ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้ ก. ไม่มีรถสวนทางมา.ข. ทางเดินรถกว้างมาก.ค. ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง.ง. ทางเดินรถมีน้ำท่วมขัง |
32. ในเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร ก. ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.ข. ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.ค. ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.ง. ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
33. เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย "เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด" ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร? ก. ลดความเร็วของรถลงและเลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที.ข. หยุดรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวจึงเลี้ยวซ้ายไปได้.ค. หยุดรอให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางด้านขวามือขับผ่านไปก่อนแล้วจึงเลี้ยวซ้ายผ่านไป.ง. เลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที |
34. เขตปลอดภัย หมายความว่าอย่างไร ก. พื้นที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้ผู้ขับขี่เห็นว่าปลอดภัยขับต่อไปได้.ข. เขตที่ผู้ขับขี่สามารถนำรถผ่านเข้าไปได้.ค. พื้นที่ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจนทุกเวลาสำหรับให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นหรือลงจากรถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไป.ง. เขตที่คนเดินเท้าสามารถข้ามทางได้โดยไม่ต้องหยุดรอ |
35. ผู้ใดได้รับยกเว้นไม่ต้องสวมหมวกนิรภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ ก. ภิกษุ สามเณร.ข. คนโดยสาร.ค. เด็ก.ง. คนขับรถ |
36. บริเวณใดแซงได้ ก. ทางร่วมทางแยก.ข. สะพานเดินรถทางเดียว.ค. ทางโค้งรัศมีแคบ.ง. บนพื้นทางที่มีเครื่องหมายจราจรให้แซงได้ |
37. ผู้ขับขี่ต้องการกลับรถต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ขับรถช่องทางไหนก็ได้.ข. ดูป้ายจราจรที่อนุญาตให้กลับรถและเข้าช่องทางให้ถูกต้อง.ค. เข้าช่องทางที่มีลุกศรบนพื้นถนนให้ตรงไป.ง. กลับรถที่บริเวณเส้นทะแยงเหลือง |
38. บริเวณใดห้ามแซง ก. ทางตรง.ข. ทางที่ปลอดภัย.ค. ทางโล่ง.ง. ทางโค้งรัศมีแคบ |
39. สัญญาณจราจรไฟสีแดงที่ทำเป็นรูปกากบาทเฉียงอยู่เหนือช่องเดินรถ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างไร ก. จอดรถในช่องเดินรถนั้น.ข. หยุดและจอดรถในช่องเดินรถนั้น.ค. ขับรถในช่องเดินรถนั้น.ง. หยุดรถในช่องเดินรถนั้น |
40. การขับรถแซงรถคันหน้าต้องแซงด้านขวามือ ยกเว้นกรณีใดที่สามารถแซงด้านซ้ายมือได้ ก. เมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา.ข. แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายในทางเดินรถช่องทางเดียว.ค. แซงรถคันอื่นในช่องทางขวาของรถที่ถูกแซง.ง. แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายขณะรถวิ่งบนสะพาน |
41. ข้อใดเปิดไฟฉุกเฉินได้ถูกต้อง ก. รถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุ.ข. เปิดได้ตลอดเวลา.ค. มีหมอก.ง. ผ่านทางแยก |
42. บริเวณใดสามารถกลับรถได้ ก. ทางเดินรถที่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ.ข. บริเวณบนสะพาน.ค. ระยะ 150 เมตร จากทางราบของเชิงสะพาน.ง. เขตปลอดภัย |
43. ในช่องทางเดินรถตั้งแต่สองช่องทางขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ต้องขับรถชิดด้านขวาสุด.ข. ต้องขับรถชิดด้านซ้ายสุด.ค. ต้องขับรถคล่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ.ง. ต้องขับรถอยู่ในช่องทางที่ให้ขับตรงไป |
44. การให้สัญญาณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง.หมายถึงผู้ขับขี่นั้นต้องการอะไร ก. หยุดรถ.ข. เลี้ยวขวา.ค. จะลดความเร็วของรถ.ง. จอดรถ |
45. บริเวณใดใช้สัญญาณเสียงแตรได้ ก. โรงเรียน.ข. สถานที่ราชการ.ค. สวนสาธารณะ.ง. โรงพยาบาล |
46. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด.ข. เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ.ค. หากไม่มีสัญญาณไฟจราจร ให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน.ง. เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ |
47. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นขณะที่มีหมอก.ฝุ่น ฝน หรือควัน จนไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะ เท่าใด ก. 60 เมตร.ข. 90 เมตร.ค. 70 เมตร.ง. 80 เมตร |
48. สัญญาณเสียงแตรใช้ได้เมื่อใด ก. ใช้ได้เมื่อรถคันหน้าขับช้า.ข. ใช้ได้ตามสะดวก.ค. ใช้ตลอดเวลา.ง. ใช้ได้เมื่อจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ |
49. ก่อนเลี้ยวรถต้องเข้าช่องทางที่จะเลี้ยวและเปิดไฟเลี้ยวก่อนเลี้ยวรถไม่น้อยกว่ากี่เมตร ก. 3 เมตร.ข. 30 เมตร.ค. 10 เมตร.ง. 15 เมตร |
50. ในการขับรถสวนทางกัน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ก. แซงเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้.ข. ให้ขับรถชิดด้านซ้าย.ค. ในทางที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าไม่ต้องหยุดรอให้รถที่สวนมาผ่านไปได้.ง. ในทางแคบที่ไม่อาจสวนกันได้ ผู้ขับรถคันที่เล็กกว่า ต้องหยุดชิดด้านซ้ายให้รถคันที่ใหญ่กว่าไปก่อน |
http://www.thaitestonline.com
แนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์,แนวข้อสอบอาเซียน 2557,ข้อสอบใบขับขี่,แบบทดสอบใบขับขี่,ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์พร้อมเฉลย 2557,แบบทดสอบป.5,แนวข้อสอบใบขับขี่จักรยานยนต์,ข้อสอบอาเซียนพร้อมเฉลย,ข้อสอบอาเซียน,สอบข้อเขียนใบขับขี่ |
ข้อ 1 ตอบด้านหน้า
ตอบลบ