1. ส่วนภายในด้านหน้าและระบบไฟฟ้า เมื่อเราได้ลองนั่งที่นั่งคนขับ ทุกส่วนที่อยู่ในแผง Console เราต้องตรวจสอบว่าทุกอย่างสามารถทำงานได้ดีหรือไม่
2. ส่วนภายในด้านหลังและระบบการทำงาน ส่วนใหญ่บริเวณนี้ก็คงต้องตรวจสอบสภาพเบาะภายใน อุปกรณ์ที่มีอยู่ด้านหลัง
3. ตรวจสอบตัวถังรถ สำหรับบางท่านที่ไม่คุ้นเคยอาจจะยากสักหน่อย แต่เคล็ดลับง่าย ๆ หาเพื่อนที่ใช้รถรุ่นที่เราหมายตาไว้ ให้ช่วยดูให้ ด้วยความคุ้นเคยเพื่อนจะสามารถบอกเราได้ถึงร่องรอยที่ผิดปกติ แต่ถ้าหาคนรู้จักไม่ได้ ก็คงต้องอาศัยผู้ขายที่มีมาตรฐานไว้ใจได้เท่านั้น
4. เปิดฝากระโปรงหน้า คราวนี้ดูจะยากขึ้นไปอีกขั้น แต่เบื้องต้นดูง่าย ๆ ว่ามีคราบน้ำมันรั่วซึมอยู่หรือไม่ ที่ชี้ให้คุณรู้ว่าคุณกำลังซื้อรถมาขับ หรือซื้อมาซ่อม ถ้าจะให้ดีหาคนที่มีความรู้ไปช่วยจะดีกว่ามาก
5. ยกรถขึ้น ขั้นตอนนี้ต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วย แต่ถึงอย่างไรก็สำคัญมากที่สุด ต้องตรวจดูทุกจุดที่อยู่ใต้ท้อง เพราะนั่นหมายถึงชีวิตและทรัพย์สินของคุณทีเดียว
6. เดินเครื่องยนต์ สำรวจฟังเสียงรบกวน ลองหมุนพวงมาลัยดูราบลื่นดีหรือไม่ ฟังเสียงที่เกิดขึ้น ช่วงนี้ตรวจสอบระบบเกียร์ดูว่าผิดปกติหรือไม่ เพราะเป็นระบบที่เสียค่าใช้จ่ายสูงมากหากเกิดเสียขึ้นมา
7. กระโปรงหลัง ท้ายรถ ตรวจการทำงาน ดูอุปกรณ์ประจำรถ จุดนี้สามารถดูได้ว่ารถเคยถูกชนหลังหรือไม่ และอุปกรณ์ทำงานได้อย่างดีหรือเปล่า
8. ทดสอบขับ คงเป็นไปได้ยากถ้าคุณจะต้องตัดสินใจซื้อรถโดยไม่ทำการทดสอบเสียก่อน การขับทดสอบก็เพื่อดูระบบเกียร์ ระดับเสียงรบกวน ระบบเบรก ล้อและช่วงล่าง รวมทั้งการทำงานของหน้าปัดบอกความเร็วและระยะทาง
9. หลังลองขับ แล้วกลับมาดูใต้ท้องใหม่อีกครั้ง ว่ามีรอยรั่วซึม หรือชำรุดที่ใต้ท้องหรือไม่
10. ขาดไม่ได้เลย คือ เอกสาร คู่มือผู้ใช้ สมุดทะเบียน การตรวจสอบประวัติบริการ กุญแจ รีโมท
11.ตรวจสอบระบบเบรก สามารถทำได้โดยระหว่างทดลองขับลองเบรกกระทันหัน เพื่อทดสอบระบบเบรก และ ระบบ ABS ว่าสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่ สามารถใช้การทดสอบบนความเร็ว ไม่เกิน 60 กม/ชม บนที่ๆไม่มีรถหนาแน่นและควรระวังรถที่ขับตามด้วย ระหว่างเบรกยังสามารถตรวจสอบความผิดปรกติต่างๆจากเสียงเบรกได้ว่า ผ้าเบรกผิดปรกติ ใกล้หมด หรือรวมไปถึงจานเบรกว่ามีพื้นผิวสัมผัสที่สมบูรณ์อยู่หรือไม่ การทดสอบนี้สำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่มาก
12.คำนวณราคา เมื่อสามารถตรวจสอบทุกๆจุดตามที่ได้นำเสนอมาแล้ว เรื่องถัดไปคือการนำเอาข้อมูลคุณภาพรถทั้งหมดมาคำนวณเป็นราคาที่เหมาะสม โดยอาจอ้างอิงจาก"ราคากลาง"ของรถที่มีสภาพกลางๆ จากนั้นถ้ารถที่คุณดูอยู่มีสภาพดีก็สามารถซื้อได้ในราคาใกล้ๆกับราคากลาง แต่ถ้ารถมีจุดบกพร่องมาก ราคาก็ควรต่ำกว่าราคากลางอย่างแน่นอน ข้อมูลในจุดนี้สามารถทำให้เรารู้ได้ว่าราคาที่เหมาะในการต่อรองแบบมีเหตุผลควรเป็นเท่าใด จำไว้เสมอว่า ของดีราคาถูกมากๆไม่มีอยู่ในโลก ความจริง ของดีราคาเหมาะสมถึงจะเป็นรถที่คุณควรเป็นเจ้าของ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น